วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

SiX:ข่าวนวัตกรรมใหม่ๆที่จะใช้ในปีนี้ น่าสนใจมากมาอ่านกัน

นวัตกรรมใหม่ๆที่จะได้พบกันในปีนี้จ้าา


1.เจลหยุดกระสุน
หมวกโล่ทหารอังกฤษกำลังจะได้รับ การอัพเกรดด้วยการใส่เจลสีส้มเข้าไป เพื่อป้องกันกระสุนและสะเก็ดระเบิดจากฝ่ายตรงข้ามเจาะเข้ามาที่กะโหลก ซึ่งเจลจะทำหน้าที่ดูดซับแรงขับเคลื่อนมหาศาลของกระสุนและสะเก็ดระเบิด จนไม่สามารถทำอันตรายให้กับทหารได้

เจลนี้มีชื่อว่า "D3O" พัฒนาโดยนายริชาร์ด พาล์มเมอร์ ใช้เทคโนโลยีนาโนในการผลิต หลักการทำงานคือ ในเจลประกอบด้วยโมเลกุลขนาดจิ๋ว เมื่อเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ โมเลกุลจะวิ่งสวนกันก่อให้เกิดพลังงานมากมาย จนโมเลกุลล็อกตัวและจับกันเป็นของแข็งที่สามารถดูดซับพลังงานจากอาวุธของ ฝ่ายศัตรูได้

นอกจาก "D3O" จะถูกนำไปใช้ในสงครามแล้ว ยังสามารถนำไปปรับใช้กับอุปกรณ์กีฬารวมทั้งชุดเล่นสกี ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้หัวเข่าและศีรษะกระแทกเวลาลื่นล้ม




2.ปืนล็อกลายนิ้วมือ ปืน ไฮเทค รุ่นอาร์เมทิกซ์ เป็นปืนรุ่นแรกที่มีระบบตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้ใช้ ถ้าลายนิ้วมือที่จับด้ามปืนไม่ตรงกับเจ้าของปืนที่ลงทะเบียนไว้ อย่าหวังว่า กระสุนจะพุ่งออกจากกระบอกปืนไปได้ ส่วนเจ้าของปืนต้องใส่สายข้อมือรักษาความปลอดภัยด้วย จึงจะปลดล็อกได้ ถ้าตัวสายข้อมือกับปืนอยู่ห่างกันเกิน 30 เซนติเมตร กลไกปืนละล็อกโดยอัตโนมัติ สินค้าตัวใหม่นี้อวดโฉมในงานแสดงปืนและอุปกรณ์กลางแจ้งนานาชาติ ที่เมืองเนิร์นแบร์ก เยอรมนี งานหมดวันที่ 16 มี.ค.นี้



3.หน้าอก สเต็มเซล โรง พยาบาลพรินเซสเกรซ ประเทศอังกฤษ จะเปิดให้บริการเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นและดูเป็นธรรมชาติแก่ผู้สนใจด้วยการ ใช้สเต็มเซลล์ ซึ่งเทคนิคนี้คิดค้นโดยแพทย์ชาวญี่ปุ่น

วิธีการ คือนำสเต็มเซลล์จากไขมันบริเวณพุงหรือต้นขา จากนั้นนำมาเลี้ยงในหน้าอกซึ่ง จะทำให้หน้าอกใหญ่เป็นธรรม ชาติไม่เหมือนกับการเสริมอกด้วยซิลิโคนที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน แต่ข้อจำกัดคือ การทำสเต็มเซลล์ครั้งหนึ่งสามารถทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นแค่ 1 คัพเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าเทคนิคก้าวหน้ามากกว่านี้ก็น่าจะทำให้หน้าอกขยายมากกว่านั้นได้

ศ. คีฟาห์ ม็อกเบล กล่าวว่า "เราใช้วิธีนี้ในการเสริมหน้าอกให้กับผู้ป่วยที่ต้องตัดหน้าอกออกเพราะโรค มะเร็ง ซึ่งมีชาวอังกฤษเข้ารับการผ่าตัดหน้าอกโดยใช้สเต็มเซลล์แล้วสิบกว่าคน แต่เรากำลังจะเริ่มทดลองใช้วิธีนี้ในคนปกติโดยได้อาสาสมัครแล้ว 30 คน และปลายปีนี้น่าจะเปิดให้บริการผ่าตัดให้กับผู้สนใจได้ คาดว่าค่าใช้จ่ายน่าจะอยู่ที่ 3.25 แสนบาท"

การเสริมหน้าอกด้วย สเต็มเซลล์นั้นดูเป็นธรรมชาติเนื่องจากเนื้อเยื่อมีความอ่อนนุ่มเช่นเดียว กับหน้าอกส่วนอื่น ขณะที่ซิลิโคนมีความแข็งและใช้ไปนานๆ ต้องเปลี่ยนทั้งยังมีโอกาสรั่วได้


4.หมวกดับเพลิงสุดเจ๋ง ต่อไปนี้นักดับเพลิงอังกฤษจะได้รับหมวกใหม่ที่ดูเผินๆ แล้วคล้ายหมวกในภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์

หมวก ดับเพลิงใหม่บุด้วยโฟม ทั้งโฟมแข็งและโฟมนุ่ม สามารถทนความร้อนได้ 1,000 องศาเซลเซียส แต่ไม่ทำให้ภายในหมวกมีความร้อนสูงกว่า 35 เซลเซียส ข้างหมวกยังติดไฟฉาย สปีกเกอร์ ไมโครโฟนและกล้อง เอาไว้ให้พนักงานดับเพลิงติดต่อกันตลอดเวลา


เอ็ม เอสเอ บริษัทออกแบบอุปกรณ์และเครื่องมือด้านความปลอดภัยของฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบหมวกดับเพลิงใบละ 6500 บาทนี้ ซึ่งเอ็มเอสเอออกแบบให้หมวกปกป้องศีรษะ ใบหน้าและลำคอของพนักงาน แว่นตายังออกแบบมาเป็นพิเศษให้ปกป้องจากความแรงที่วัสดุกระเด็นเข้ามา ความร้อน และภาพย้อนกลับคือแฟลชแบ๊กที่เกิดจากการระเบิด ปัจจุบันหมวกพนักงานดับเพลิงส่วนใหญ่ทำมาจากพลาสติกกันความร้อน แต่หมวกดับเพลิงรุ่นแรกๆ ที่ใช้เมื่อเกือบ 100 ปีก่อนทำมาจากเหล็ก ที่ต่อมาไม่นิยมใช้ เพราะถูกไฟดูดง่าย



5.สุนัขเรืองแสง ดร. เบียงชุนลี นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโซลเนชันแนล ประเทศเกาหลีใ ต้ ได้เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของลูกสุนัขพันธุ์บีเกิ้ลที เกิดจากการโคลนนิ่ง ให้เรืองแสงเป็นสีแดงเมื่ออยู่ภายใต้แสงอัลตรา ไวโอเลต ลูกสุนัขตัวนี้มีชื่อว่า "รัพพี" ย่อมาจาก "รูบี้ พัพพี" หรือ "ลูกหมาทับทิม"



6.แอร์แบ๊กป้องกันหิมะถล่ม แต่ ละปีมีข่าวหิมะถล่มทับนักเล่นสกีหลายครั้ง จึงมีผู้คิดค้นแอร์แบ๊ก "สโนว์ พัลส์ ไลฟ์ แบ๊ก" ติดตัวเมื่อหิมะถล่มแอร์แบ๊กจะพองตัวใน 3 วินาที ป้องกันการบาดเจ็บได้


บริษัท ไลฟ์แบ๊ก ซึ่งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกแบบให้แอร์แบ๊กป้องกันการบาดเจ็บจากหิมะถล่มให้มากที่สุด ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ใช้ง่าย และยังทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมองเห็นได้ง่ายด้วย


7.ลำโพงบางเท่ากระดาษ เทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้สิ่งของต่างๆ เปลี่ยนรูปแบบไป ลำโพงก็เช่นกันที่เทค โนโลยีเปลี่ยนรูปแบบไปให้ดูเหมือนกับแผ่นฟอยล์แผ่นหนึ่ง

ดร. ดันแคน บิลสัน และ ศ.เดวิด ฮัตชินส์ จากมหาวิทยาลัยวอร์วิก ประเทศอังกฤษ พัฒนาลำโพงที่มีน้ำหนักเบา โค้งงอได้ และหนาเพียง 0.25 ม.ม. ซึ่งอาจนำมาใช้กรุรถยนต์หรือผนังบ้าน และภายในปลายปีนี้บริษัทวอร์วิก ออดิโอ เทคโนโลยีส์ จะวางตลาดลำโพงฟอยล์ สำหรับหลักการทำงานของลำโพงฟอยล์คือ มันจะเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าซึ่งสร้างสนามแม่เหล็ก จากนั้นมันจะเปลี่ยนแรงสั่นสะเทือนให้เป็นเสียง ส่วนความชัดเจนของเสียงนั้นก็เหมือนกับลำโพงทั่วๆ ไป เนื่องจากคุณภาพเสียงไม่ได้ลดลงเลย


8.อียู ชมทีวีฉลาดของโซนี่ บริษัท โซนี่กำลังจะวางตลาด ทีวีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชื่อรุ่น "บราเวีย WE5" ที่ว่าดีต่อสิ่งแวดล้อมก็เพราะมันจะปิดตัวเองทันทีที่เราหลับหรือออกไปจาก ห้องเพื่อประหยัดพลังงาน

"บราเวีย WE5" มีเซ็นเซอร์ที่สามารถบอกได้ว่าไม่มีใครดูมันแล้ว ด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหวและความร้อนของผู้ดูที่อยู่ด้านหน้าในระยะที่ เซ็นเซอร์ไปถึง ถ้าเราหลับเซ็นเซอร์จะตรวจพบและมันจะไปปิดตัวเองที่ปุ่ม "ปิด" จากนั้นจอภาพจะดำแต่ยังคงมีเสียงอยู่ ช่วยลดการใช้พลังงานไปได้จาก 116 วัตต์ เหลือ 60 จากนั้นอีก 30 นาทีเมื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้ดูต่อไปอีกแล้ว มันจะปิดเสียงนับเป็นการปิดทีวีอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าเราตื่นขึ้นหรือมีใครเข้ามาในห้อง ทีวีจะเปิดภาพให้ดูทันที และเรายังสามารถเซ็ตเวลาเซ็นเซอร์ได้เอง

โซนี่อ้างว่า "บราเวีย WE5" ใช้พลังงานน้อยกว่าทีวีขนาดเดียวกันของบริษัทอื่นๆ ถึง 50% ส่วนเทคโนโลยีที่ใช้คือ แบ๊กไลต์ใหม่ที่เรียกว่า micro-tubular Hot Cathode Fluorescent Lamp (HCFL) ที่ช่วยทำให้ทีวีสว่างและชัดโดยใช้พลังงานน้อยกว่าทีวีแบบเดิมๆ


9.บ้านเคลื่อนที่ฉลาดหลบร้อน รอส รัสเซ นักธุรกิจชาวเมืองซัฟโฟล์ก ประเทศอังกฤษ ต้องการสร้างบ้านที่แปลกกว่าบ้านหลังอื่นๆ เพราะต้อง การให้บ้านหลังนี้เคลื่อนที่ได้ เมื่อมีไอเดียแปลกไม่เหมือนใคร เขาจึงติดต่ออเล็กซ์ เดอ ริจคี เพื่อนเก่า ซึ่งเป็นสถาปนิก อยู่ที่บริษัท
DRMM จนเป็นที่มาของบ้านแสนฉลาดหลังนี้


เพียงกดปุ่ม บ้านฉลาดก็จะเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง หกนาทีต่อมาตัวบ้านด้านนอกซึ่งทำด้วยไม้และเหล็กหนัก 20 ตัน ยาว 52 ฟุต กว้าง 20 ฟุต สูง 23 ฟุต ก็เคลื่อนที่เข้ามาติดส่วนที่เป็น กลาสเฮาส์จนหมด เพื่อป้องกันแดดร้อน หรือถ้าไม่ต้องการปิดให้หมดก็สามารถกดปุ่มให้หยุดได้ตามความต้องการ สำหรับมอเตอร์ที่ใช้ในการเคลื่อนบ้าน เป็นแบตเตอรี่ธรรมดาที่ใช้กับรถยนต์ทั่วไป รัสเซลกล่าวว่า "ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว เราจะเอาตัวบ้านด้านนอกเข้ามาปิดตัวบ้านทั้งหมด เพื่อสร้างความอบอุ่น แต่ถ้าเป็นฤดูร้อน เราจะเปิดให้เป็นกลาสเฮาส์ จะได้รับแสงแดดอุ่นๆ ได้"

กว่าจะได้บ้านหลังนี้มา ริจคี สถาปนิก ใช้เวลาออกแบบนาน 12 เดือน ทั้งยังตื่นเต้นที่ได้ออกแบบบ้านที่ไม่เหมือนใคร "บ้านเคลื่อนที่ทำให้มีลูกเล่นในการใช้พื้นที่ เพิ่มส่วนที่เป็นร่ม ส่วนที่รับแดด นับว่าเป็นบ้านที่เหมาะกับทุกฤดูกาลจริงๆ"


10.หนังสือพิมพ์แนวใหม่
เจ้าหน้าที่ในงานแสดง หนังสือไลป์ซิก ทางตะวันออกของเยอรมนี แสดงหนังสือพิมพ์แนวใหม่ที่ไม่ใช่กระดาษ แต่เป็นแผ่นติดตั้งหน้าจอที่ใช้อ่านหนังสือและหนังสือพิมพ์ได้ทั้งเล่ม งานดังกล่าวเป็นงานชุมนุมผู้ผลิตสิ่งพิมพ์และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ กว่า 2,100 บริษัท จาก 38 ประเทศ


11.มือถือกูเกิ้ล
พนักงานประจำบูธบริษัทสื่อสาร โวดาโฟน สาธิตวิธีใช้งานโทรศัพท์มือถือของค่ายกูเกิ้ล ผู้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อการสืบค้นข้อมูลรายใหญ่ของโลก เปิดดูคลิปข่าวนายกฯ อังเกลา แมร์เคิล ในงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีซีบิต เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี เมื่อเร็วๆ นี้


++++++++ แ ถ ม ++++++++



ภัยน้ำยาบ้วนปาก
แพทย์โรงพยาบาลราชวิถี เตือนคนไทยถึง "น้ำยาบ้วนปาก" หากใช้มากๆนานๆ ทำตุ่มรับรสเพี้ยน เกิดเชื้อราช่องปาก สีฟันเปลี่ยน หินปูนเกิดง่าย ส่วนยาสีฟันที่อ้างลดแบคทีเรียนั้น มีประสิทธิภาพเท่ากับแปรงฟันอย่างถูกวิธี ส่วนคนไทย 9 ล้านคนมีกลิ่นปาก และแนะวิธีเช็กกลิ่นปาก


ท.ญ.นพมณี วงษ์กิตติไกรวัล
ทันตแพทย์กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากมีไว้เพื่อกำจัดกลิ่นปาก แต่ที่จริงแล้ว เป็นเพียงการกลบกลิ่นปากด้วยกลิ่นของน้ำยาใน ระยะสั้นเท่านั้น จากนั้นไม่นานก็กลับมามีกลิ่น ปากเช่นเดิม


การใช้น้ำยาบ้วนปากติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้ไปทำลาย เชื้อแบคทีเรียที่ดีที่อาศัยอยู่ในปากให้ตายไปด้วย อาจนำมาซึ่งเชื้อราในช่องปาก ทำให้ตุ่มรับรสของลิ้นเพี้ยนไป มีสีเคลือบผิวฟันที่เปลี่ยนแปลง หรือทำให้เกิดหินปูนได้ง่าย



คนนอนตื่นสายฉลาด
คนนอนดึกตื่นสายฉลาดกว่าและรวยกว่าคนตื่นเช้า นี่คือผลการศึกษาของ ดร.ฟิลิปป์ พีนูซ์ จากมหาวิทยาลัยลีจ ประเทศเบลเยียม


ดร.พีนูซ์พบว่า คนนอนตื่นสายเหนื่อยช้ากว่าคนนอนตื่นเช้า หลังจากที่ทดลองกับอาสาสมัครเพื่อวัดปฏิกิริยาและความตั้งใจในการทำงาน ซึ่งระหว่างวันนั้นทั้งสองกลุ่มทำงานดีเท่าๆ กันหลังจากตื่นนอนเพียงไม่นาน แต่เมื่อทำงานไปได้ 10 ชั่วโมงผู้ที่นอนตื่นสายทำงานเร็วกว่าและตื่นตัวกว่าผู้นอนตื่นเช้า ผู้นอนตื่นเช้ายังรู้สึกง่วงนอนมากกว่า จากการสแกนสมองยืนยันว่าส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับความตั้งใจทำงานน้อยลง


การนอนตื่นสายนั้นอยู่ในดีเอ็นเอของมนุษย์ พันธุกรรมยังเป็นตัวบ่งชี้คนนอนตื่นเช้าหรือตื่นสาย คนนอนตื่นสายยังฉลาดกว่า ตัดสินใจรวดเร็วกว่า และมีความจำดีกว่า มีรายได้มากกว่าคนนอนตื่นเช้า ซึ่งคนนอนตื่นสายมีทั้งชาร์ลส์ ดาร์วิน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และวินสตัน เชอร์ชิล ที่มักเข้านอนตอนตี 4 และตื่นสาย

Five:Finding The coOl news!!


อัสซุส “Eee Keyboard”

นวัตกรรมคอมพิวเตอร์ในอนาคต

ASUS Eee Keyboard เป็นนวัตกรรมใหม่จาก ASUS ที่ไม่ใช่เพียงแค่ Keyboard ธรรมดาแต่สามารถใช้งานเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมการสามารถแสดงผลผ่านหน้าจอแบบ Touch screen ขนาด 5 นิ้ว อยู่ด้านขวาของคีย์บอร์ด มีความละเอียดภาพที่ 800 x 480 พิกเซล สามารถใช้เป็นโฮม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi มาพร้อมระบบปฏิบัติการ window XP home Intel Atom RAM ขนาด 1 GB ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD 32 GB มีช่องต่อ VGA สาย LAN ช่องต่อ USB หูฟัง ไมโครโฟน และ ลำโพง สเตอริโอในตัว รองรับ Wireless LAN และบลูทูธ

ASUS Eee Keyboard ยังไม่มีการผลิตเพื่อจำหน่ายที่ใด เพียงนำออกแสดงในงานคอมพิวเทค ประเทศไต้หวัน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ชมงานได้รับทร
าบถึงเทรนด์ของนวัตกรรมที่อัสซุสได้พัฒนาขึ้น




WOW wow WOW
So COOl So Interesting ไหมละเพื่อนๆ เราอยากลองเล่นมันไวๆจัง
^O^
วู้วๆๆ

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Four:No Gang no group But "WE"

วันนี้เราไปtrip by A'jan Chatmaung มาอาจาร์ยใจดีมากๆเป็นกันเองด้วย พาไปเที่ยว ช็อปปิ้ง ได้เลี้ยงน้องกระต่ายด้วย แล้วบนรถบัสอาจาร์ยก็ร้องคาราโอเกะกับเด็กๆด้วย โอ้โห อาจาร์ยวัยรุ่นมากๆ 55 เหมือนไปเที่ยวกันฉันครอบครัว COSCI แต่เสียดายเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ น่าจะไปกันเยอะๆกว่านี้ เราอยากสนุกกับเพื่อนๆ อยากมีวันที่ฌอฮา บ้าบอด้วยกันเยอะๆ โดยเฉพาะพวกมัล(เมา)ติ วันนี้เราคิดถึงเพื่อนๆม๊ากมากเป็นพิเศษ เพราะอะไรหนาา เฮ้ออออ หรือเพราะว่าพวกเราเป็นพวกเรา ไม่แบ่งแยก
^__^

Love U Multi



ตลาดสามชุก สุพรรณบุรี


เป็นตลาดห้องแถวไม้ 2 ชั้นขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี(ท่าจีน) และรายล้อมด้วยบรรยากาศของบ้านเรือนรวมถึงเรื่องราวของผู้คนในอดีต โดยแทบไม่มีการดัดแปลงเสริมแต่ง ย้อนอดีตกลับไปยุคสมัยที่ตลาดสามชุกเฟื่องฟู ยุคนั้นชาวบ้านจะนำของพื้นเมือง รวมทั้ง เกลือ ฝ้าย แร่ สมุนไพร มาแลกเปลี่ยนซื้อขายให้กับพ่อค้าที่เป็นชาวเรือ

ต่อมาเมื่อริมแม่น้ำสุพรรณ กลายเป็นแหล่งทำนาที่สำคัญ มีโรงสีไฟขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายแห่ง ตลาดสามชุกก็กลายเป็นตลาดข้าวที่สำคัญ มีการค้าขายกันอย่างคึกคัก ทำให้ตลาดสามชุกไม่จำกัดบริเวณอยู่เฉพาะริมน้ำ แต่ยังขยายมาถึงริมฝั่ง โดยแต่ละปีมีการเก็บภาษีได้จำนวนมาก พร้อมๆกับมีการตั้งนายอากรคนแรก ชื่อ “ขุนจำนง จีนารักษ์”

ช่วงเวลาเฟื่องฟูของตลาดสามชุกกินเวลานานหลายสิบปี แต่หลังจากที่มีการตัดถนนผ่านสามชุก ผู้คนเปลี่ยนไปใช้ถนนเป็นเส้นทางสัญจรมากขึ้น ส่งผลให้ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และการค้าที่ตลาดสามชุกเริ่มซบเซา แต่ตลาดสามชุกก็ยังคงดำเนินวิถีของตลาดห้องแถวไปอย่างต่อเนื่อ

ด้วยความที่ วิถีชีวิตและลักษณะทางกายภาพของชุมชนตลาดสามชุกมีกาลเปลี่ยนแปลงน้อยมาก แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานับร้อยปี เหตุนี้ประชาคมชาวตลาดสามชุกจึงได้มีการปรับปรุง ฟื้นฟู และร่วมกันอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไม้ของตลาดสามชุกไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม รวมทั้งพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เพื่อให้ตลาดสามชุกกลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

บ้านหลังนี้เป็นบ้านของขุนจำนง จีนารักษ์ ซึ่งเป็นนายภาษีอากรคนแรกและเป็นเจ้าของตลาดสามชุก ได้สร้างบ้านหลังนี้เมื่อ พ.ศ. 2459 ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนในครอบครัว รวมทั้งเป็นที่ต้อนรับและพักอาศัยของผู้หลักผู้ใหญ่และแขกบ้านแขกเมืองหลายคนค่ะ”

การเดินทาง สู่ตลาดสามชุก จากกรุงเทพฯ ผ่าน อ. บางบัวทอง จ. นนทบุรี ไปจนถึงตัว จ.สุพรรณบุรี ระยะทางประมาณ 107 กม. จากนั้นไปตามหลวงหมายเลข 340 แยกเข้า อ. สามชุก ตัวตลาดอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณติดกับที่ว่าการอำเภอสามชุ

บึงฉวาก อ.เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี

http://gotoknow.org/file/prajak/pageyy1.jpg

บึงฉวากอยู่ในอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำท่าจีน ที่เกิดการทับถมของตะกอนดินโคลน จึงถูกแยกตัวออกมาเป็นบึงใหญ่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีระบบนิเวศอันหลากหลาย ภายในพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ อุดมไปด้วยพรรณไม้น้ำนานาชนิด โดยเฉพาะบัวแดง ในยามเช้าจะชูช่อบาน อวดโฉมเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มาตั้งแคมป์พักได้
ด้วยสภาพแวดล้อมของบึงที่มีความเหมาะสมและสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้น้ำนานาชนิด เช่น บัว กก อ้อ ธูปฤาษี ผักตบ สาหร่ายหลากชนิด เป็นต้น จึงเป็นที่อยู่อาศัยของนกน้ำนกทุ่งประมาณ 70 ชนิด มีทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพที่ผ่านมาอาศัยหรือพักพิงชั่วคราว อาทิ อีโก้ง นกกาบบัว และนกอพยพอย่างนกเป็ดแดงที่มาในช่วงฤดูหนาว นกปากห่างที่มาในช่วงเดือนตุลาคม นกคูท และเป็ดเปียที่จัดเป็นนกอพยพที่หาดูได้ยากก็เคยพบเห็นที่นี่ รวมถึงเป็ดแดงจำนวนนับหมื่นๆ ตัวในช่วงฤดูหนาว นอกนั้นก็มีเป็ดคับแค เป็ดผี นกอีโก้ง นกอีแจว นกกระสานวล นกกระสาแดง นกกระยาง ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ทางการจึงประกาศให้พื้นที่ของบึงฉวากเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
นอกจากนี้บึงฉวากยังเป็นแหล่งรวมปลานานาพันธุ์ เช่น ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลาสลิด ฯลฯ ปัจจุบันบึงฉวากได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำตามสนธิสัญญาแรมซาร์ เมื่อปี พ.ศ. 2541 และประกาศเป็นเขตห้ามล่าเมื่อปี พ.ศ. 2525 บึงฉวากจึงมีความสำคัญทั้งในแง่ที่เป็นแหล่งน้ำ แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางเกษตร ทั้งยังได้จัดสรรพื้นที่โดยรอบบึงฉวากเพื่อการศึกษาและวิจัย อาทิ สวนรวมพันธุ์ไก่ บ่อจระเข้น้ำจืด อุทยานผักพื้นบ้าน สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ฯลฯ


วันนี้สนุกดีจัง ขอบคุณอาจาร์ยนะค่ะ!

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Three:What is Twitter!!

“ อยากรู้จังว่าตอนนี้คุณทำอะไรอยู่ ”


หลายคนคงเคยตั้งคำถามนี้เมื่อคิดถึงใครสักคน และในทางกลับกันใครคนนั้นเค้าก็อาจจะตั้งคำถามนี้เมื่อคิดถึงเราเช่นกัน เชื่อว่าทุกคนล้วนแล้วแต่อยากรู้สถานะของคนที่เราให้ความสำคัญด้วยกัน ทั้งนั้น จะดีไหมถ้าเราสามารถบอกสถานะของเราให้กับคนที่เค้าคิดถึงเราเหล่านั้น ทราบด้วยSMSฟรีๆ กว่า 250ข้อความต่อสัปดาห์ผ่านบริการกระบอกเสียงออนไลน์ที่มีชื่อว่า TWITTER

ถ้าเพื่อนๆชอบเล่น hi5 ,MySpaceหรือชอบเขียนBlogเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยล่ะก็ เจ้าTwitterก็ไม่แตกต่างกัน แต่วิธีการใช้นั้นง่ายกว่ามากๆ หลักการมีอยู่ว่าเราสามารถบอกกับใครต่อใครด้วยการโพสต์ข้อความเล็กๆ ลงในBlog แล้วข้อความดังกล่าวก็จะถูกส่งถึงผู้รับอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญสามารถส่งตรงไปยังโทรศัพท์มือถือของคนเหล่านั้นด้วยบริการ ฟรี! SMS ถัง 13,000 Message ต่อปีเลยทีเดียว ลองนึกเล่นๆดูนะคะว่าหากเพื่อนๆ ทุกคนในกลุ่มต่างคนต่างอัพเดตข้อมูลของตนผ่าน SMS ให้เพื่อนๆ ทราบตลอดเวลา เราก็คงจะไม่ต้องหมดตังค์ค่าขนมไปกับการโทรศัพท์หาเพื่อนๆในยามที่คิดถึง ประหยัดช่วยชาติ ลดสภาวะโลกร้อน(ก็ว่าไปนั่น) ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คงต้องขอขอบคุณบริการแบบฟรีๆ ของเว็บ Twitter.com เขาคะ


Twitter ทำงานอย่างไร

Twitter(ทวิตเตอร์) เป็น เว็บที่ให้บริการเขียนBlogที่เมื่อเราสมัครเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ก็จะมีBlogไว้เขียนบอกสถานะของตนเองให้กับคนอื่นได้ทราบ โดยBlogของ Twitterจะแตกต่างจากBlogทั่วๆไปก็ตรงที่เราสามารถโพสต์ข้อความได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษรและสามารถที่จะส่งข้อความสั้นๆไปยังโทรศัพท์มือถือได้โดยที่ไม่ จำเป็นต้องเปิดอินเทอร์เน็ตเข้าอ่านเหมือนBlogทั่วไป ซึ่งก็คือข้อความสั้นๆ ที่จะบอกกับใครต่อใครว่า “ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่” ศัพท์เทคนิคเค้าเรียกBlogแบบนี้ว่า Microblog (ไมโครบล็อค) ข้อดีของMicroblogก็คือ สั้น ง่าย และรวดเร็ว นั่นเองคะ

เราสามารถบอกสถานะของของเราให้กับเพื่อนทราบได้ด้วยกัน 4 ช่องทาง คือ

1. ส่งข้อความเป็นแบบSMS ข่าวดีก็คือข้อความที่โพสต์ในBlogเราสามารถกำหนดให้ส่ง SMS ได้ ฟรี! 13,000 Message ต่อปี อันนี้ สุดยอด!! มากครับ
2. ส่งข้อความด้วยโปรแกรมแชท (IM : Instant Messaging) ปัจจุบันใช้โปรแกรม Google Talk (GTalk) , Livejournal , jabber เป็นหลักครับ น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่สนับสนุน MSN Messenger ไม่งั้นสนุกกว่านี้แน่
3. ส่งข้อความผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์มือถือ ในGPRS (อันนี้เสียตังค์)
4. ด้วยการเข้าไปเขียน-ข้อความในTwitterของเราเองในเว็บไซต์


วิธีสมัคร Twitter

1. เข้าไปที่เว็บ www.twitter.com

2. คลิกปุ่ม Get Started-Join


3. กรอกแบบฟอร์มรายละเอียดให้ครบ ดังนี้


- Username : ตั้งชื่อ Twitter ของเรา ถ้าชื่อนั้นๆ ยังไม่มีคนอื่นเอาไปก็จะขึ้นตัวหนังสือสีเขียวว่า Available
- Password : รหัสผ่านเข้าใช้ Twitter ความยาวไม่ต่ำกว่า 6 ตัวอักษร
- Email Address : ต้องเป็นอีเมล์จริงเท่านั้นครับ แนะนำว่าถ้าเป็น GMail ได้ จะดีที่สุด
- Humanness : ในตัวอักษรที่แสดงขึ้นมาให้ถูกต้อง สำหรับTwitter จะใส่ตัวอักษร 2 คน และต้องเว้นวรรคด้วยนะคะ เช่นคำว่า considered to ดังรูปตัวอย่าง
- คลิกเครื่องหมายถูกเลือก I want the inside scoop-please send me email updates!
เรียบร้อยแล้วคลิกปุ่ม I accept Create my account.


4. คลิกปุ่ม Skip เพื่อข้ามขั้นตอน Add เพื่อนไปก่อนคะ



5. ในช่อง What are you doing? ให้พิมพ์อะไรก็ได้คะ ไม่เกิน 140 ตัวอักษร เพื่อบอกกล่าวกับบริการ Twitter ว่า เรามาใช้บริการแล้ว พิมพ์เรียบร้อยแล้วก็ให้คลิกปุ่ม update ได้เลยคะ


6. เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัครคะ หากต้องการ ออกจากการใช้ Twitter ก็คลิกปุ่ม Sign out ได้เลยคะ



7. ถึงตอนนี้เราก็จะมีบล็อก Twitter ไว้ใช้เรียบร้อย เราสามารถเข้าไปอ่าน Twitter ของเราหรือของเพื่อนๆ ได้โดย พิมพ์ http://twitter.com/ชื่อTwitter ดังรูป



ทีนี้ก็ Login เข้าไปลองโพสต์เล่นดูได้เลยคะ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Two:The Week's Weak!!


อาทิตย์แห่งความอ่อนแอ (รโหยโรยริน)

ว่าด้วยการบ้าน การมหาลัยและการเรียน (จะเยอะไปไหนเอ่ย?)

วันนี้รายงานข่าวอาจาร์ยกุ้งเกี่ยวกับ Smart Fiber แต่ว่าไม่ผ่านอะ NO! ตัวเบิ่มเริ่มเลย (ดันหามาผิดไปหน่อย^^") งั้นวันนี้ขอแก้ตัวด้วยการอัพข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผ่านทาง blogger ดีกว่า นั้น! นี้ไงละประโยชน์ของเจ้าบล็อกๆ


2009!!!…ปีแห่งนวัตกรรมไร้สายครองเมือง


สำหรับปี 2008 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น มีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้นกับแวดวงไอทีทั่วโลกรวมทั้งบ้านเราด้วย หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับผู้ใช้ไอทีบ้านเราที่จะได้สมหวังกัน สักที นั่นก็คือ การที่ กทช. ประกาศอนุมัติ WiMax-3G ในต้นปี 52 หรือปี 2009 นี้ หลังจากติดโรคเลื่อนและปัญหาหยุมหยิมมานาน จนสุดท้ายก็ได้ข้อสรุป แต่จะสรุปออกมาได้ดีอย่างที่เราๆ ท่านๆ หวังเอาไว้หรือไม่นั้น คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

ครั้งนี้เป็นเรื่อง ราวของโลกในยุคที่นวัตกรรมไร้สายครองเมือง ซึ่งในปี 2009 นี้ เราจะได้เห็นและได้สัมผัสกับเทคโนโลยีไร้สายในรูปแบบใดบ้างนั้น ไปติดตามพร้อมๆ กันเลยครับ...

WiMax จิ๊กซอร์ตัวสุดท้ายที่เกือบหาไม่เจอ!!!

WiMaxปี 2009 นี้ หากไม่พูดถึงเรื่อง WiMax คงต้องกลายเป็นคนตกกระแสแน่ๆ ครับ เพราะความหวังที่หลายคนตั้งตารอมานานนั้น ใกล้จะถึงฝั่งแล้ว หลังจากการประกาศออกใบอนุญาตอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง หรือ ไวแมกซ์ (WiMax) จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งผ่านการตรวจสอบและทดสอบมายาวนานหลายปี บัดนี้ ประเทศไทยกำลังจะมีบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 3G/WiMax ให้ใช้งานเหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านกันแล้ว (*0*)/ (ไชโย!!!) ภาพของสังคมไทยและผู้คนที่ดำเนินชีวิตในยุค 3G/WiMax จะออกมาในรูปแบบใดนั้น ตอนนี้ยังตอบไม่ได้แน่ จนกว่าจะได้เห็นโฉมหน้าของบริการและแอพพลิเคชันต่างๆ จากบรรดาโอเปอร์เรเตอร์ทั้งหลายที่ได้รับใบอนุญาตจาก กทช.

ถ้าเราดู ตัวอย่างจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและอินโดนีเซียที่นำเอาเทคโนโลยี WiMax ไปใช้งานนั้น หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไปในชนบทสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกับผู้คนในเมืองผ่าน ระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมทั้งการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตและใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้อย่างไม่มี ปัญหาติดขัด ด้วยคุณสมบัติของ WiMax ในการรับส่งข้อมูลที่มีอัตราเร็วถึง 75Mbps และครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างไกลเกือบ 50 กิโลเมตร ทำให้สามารถขยายโครงข่าย WiMax ไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง แน่นอนว่าเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการลากสายทองแดงจากชุมสายหรือโอเปอเรเตอร์ไป ยังผู้ใช้ปลายทางอีกด้วย

สิ่งที่เทคโนโลยี WiMax ตอบสนองให้เราได้นั้น นอกจากใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากที่ใดๆ ก็ตามอย่างทั่วถึงแล้ว Wimax ยังเป็นจิ๊กซอร์ตัวสุดท้ายที่เข้ามาเติมเต็มระบบไร้สายปัจจุบันให้สมบูรณ์ แบบยิ่งขึ้น เช่น พื้นที่ที่อินเทอร์เน็ตไร้สายระบบเดิมอย่าง Wi-Fi เข้าไม่ถึง หรือมีความเร็วไม่เพียงพอ โครงข่ายของ WiMax ก็จะเป็นตัวเชื่อมให้พื้นที่เหล่านี้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายในระดับ ความเร็วที่ผู้ใช้ต้องการ รวมทั้งการขยายขอบเขตพื้นที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยอาศัยโครงข่าย WiMax เชื่อมต่อกับโอเปอเรเตอร์ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ หากโทรศัพท์เคลื่อนที่ฝังชิป WiMax ลงไปในเครื่องด้วยแล้ว คุณก็จะมีเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลังและครบเครื่องอยู่ในมือเลยทีเดียว แต่สำหรับตอนนี้ คงต้องรอให้ทาง กทช. จัดสรรย่านความถี่สำหรับ WiMax ให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน อิอิ (*_*)/

Nex Gen Wi-Fi

สำหรับ ค่ายมือถือที่รอลุ้นอยู่ว่าจะได้รับใบอนุญาตจาก กทช. เพื่อเปิดให้บริการ 3G/WiMax ได้ก่อนใครเพื่อนหรือไม่นั้น ตอนนี้ WiMax คงจะเปรียบเหมือนกับสลากรางวัลที่ 1 ซึ่งหากถูกรางวัลนี้ก็ได้เฮกันเลย ส่วนผู้ให้บริการที่พลาดรางวัลนี้ก็อาจถึงกับฝันร้ายไปเลย เมื่อคู่แข่งได้ WiMax ไปขับเคลื่อนระบบเครือข่ายของตนก่อน ย่อมได้เปรียบอย่างมาก โดยเฉพาะการปล่อยบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายที่สามารถทำได้เหนือกว่า

Nex Gen Wi-Fi

ข้อ จำกัดของอินเทอร์เน็ตไร้สายปัจจุบันอย่าง Wi-Fi คือ ความเร็วและระยะทางหรือขอบเขตในการให้บริการ ซึ่งมีความเร็วสูงสุด 54Mbps (มาตรฐาน 802.11g) และมีระยะทางไม่เกิน 100 เมตร เมื่อเทียบกับอินเทอร์เน็ตไร้สายที่ใช้เทคโนโลยี WiMax ในการรับส่งสัญญาณสามารถให้อัตราเร็วสูงถึง 75Mbps และมีพื้นที่ให้บริการในรัศมี 48 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับ Wi-Fi และเทคโนโลยี 3G อื่นๆ แล้วต้องถือว่า WiMax ขี่ม้าขาวผ่าทางตันมาเพื่อยุคดิจิตอลมัลติมีเดียจริงๆ เพราะยุคนี้ การรับส่งข้อมูลไม่ได้มีเพียงแค่ข้อความและเสียงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อมูลมัลติมีเดียอื่นๆ ด้วย สำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านระบบเครือข่าย Wi-Fi เดิม จึงต้องปรับปรุงเครือข่ายให้มีความเร็วที่สามารถตอบสนองกับความต้องการของ ผู้ใช้ยุคนี้ ไม่อย่างนั้น เครือข่าย WiMax เอาไปกินหมดแน่ๆ เราอาจจะได้เห็น Hi-Speed Wi-Fi ที่ใช้มาตรฐาน 802.11N ซึ่งให้อัตราเร็วอยู่ระหว่าง 74-248Mbps ออกมาให้บริการก่อนที่เสาเครือข่าย WiMax ต้นแรกจะปักหมุดก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ทั้งโน้ตบุ๊กและการ์ด Wilreless LAN รุ่นใหม่ๆ ต่างก็รองรับมาตรฐานดังกล่าวกันเกือบหมดแล้ว

Sub Notebook/Mobile Phone

ซับ โน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊ก รวมทั้งโทรศัพท์มือถือไฮ-เทค ทั้งหลายในปี 2009 ล้วนแต่เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีไร้สาย รวมถึงบริการและแอพลิเคชันต่างๆ ที่จะทยอยออกมาในปีนี้ ถ้าพูดถึงเน็ตบุ๊กนั้น ต้องยอมรับว่าเป็นเทรนด์ใหม่มาแรง และจะแรงไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ในปีนี้ เนื่องจากค่ายโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่หันมาเจาะตลาดกลุ่มนี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีผู้ใช้งานหลายระดับ ตั้งแต่เด็กวัยรุ่นไปจนถึงคนทำงานและนักธุรกิจที่ต้องการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แบบพกพาที่มีความสามารถอยู่ระหว่างพีดีเอกับโน้ตบุ๊ก ซึ่งเน็ตบุ๊กเข้ามาเติมช่องว่างนี้ได้พอดี ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ๆ จะมีความไฮ-เทค และประสิทธิภาพที่ไล่หลังมาก็ตาม แต่ก็ยังตอบตอบสนองการใช้งานได้ไม่ครอบคลุม โดยในปีนี้ เน็ตบุ๊กจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการท่องเน็ตและดิจิตอลเล่นคอนเทนต์ ต่างๆ ผ่านหน้าเว็บเป็นหลัก

Notebook Mobile Phone

ส่วน โทรศัพท์มือถือนั้น หน้าจอแบบสัมผัสคงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้คลั่งไคล้ในมือถือ เนื่องจากให้ประสบการณ์ในการใช้งานได้หลากหลายกว่าการกดปุ่มแบบเดิมๆ นอกจากนี้แอพพลิเคชันใช้งานต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อระบบสัมผัสก็ดูจะเป็นของเล่นใหม่ที่ดึงดูดผู้ใช้ได้มากที เดียว การแข่งขันของค่ายมือถือและผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในยุคไร้สาย นอกจากต้องนำความแปลกใหม่มาให้ผู้ใช้แล้ว ยังต้องพัฒนาเรื่องประสิทธิภาพของอุปกรณ์รวมถึงแอพพลิเคชันหลังจากนี้ ซึ่งจะเป็นยุคที่ WiMax กลายเป็นเฟืองตัวหลักของเครือข่ายไร้สาย!

Wireless Mobile Printer

พรินเตอร์ ไร้สายก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ ที่จะได้รับความนิยมในยุคที่ระบบไร้สายครองเมือง ถึงแม้ว่าจะมีออกมาให้เห็นในตลาดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่นั่นก็ยังเป็นพรินเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ครับ เรากำลังพูดถึงพรินเตอร์ไร้สายที่มีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเน็ตบุ๊กหรืออาจจะใหญ่ กว่าโทรศัพท์มือถือไม่มากนัก ถ้าคุณเคยเห็นพรินเตอร์ขนาดเล็กที่เอาไว้พิมพ์บาร์โค้ดแปะข้างกล่องสินค้า หรือพิมพ์ใบเสร็จแผ่นเล็กๆ พรินเตอร์ที่ว่านี้ก็มีขนาดพอๆ กัน โดยคุณสามารถพกไปไหนมาไหนได้สบาย เพราะมันใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาเซลล์

Wireless Mobile Printer

Wireless Mobile Printer ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลี ได้รับความนิยมจากบรรดาวัยรุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เพียงพอกับความต้องการในการพิมพ์ภาพต่างๆ เช่น การสั่งพิมพ์ภาพถ่ายจากโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ หรือผ่านสายดาต้าลิงก์ และสายยูเอชบี ก็สามารถทำได้ ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือไม่มากนัก จึงเหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายเล็กๆ ที่มีขนาดพอๆ กับภาพถ่ายจากตู้สติ๊กเกอร์ ส่วนพรินเตอร์ไร้สายที่เป็นรุ่นใหญ่ขึ้นอีกนิด ก็สามารถรองรับการพิมพ์ผ่านระบบไร้สายต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ทั้ง Infrared, Bluetooth และ Wi-Fi สำหรับพรินเตอร์ไร้สายที่สามารถพกพาได้สะดวกแบบนี้ คงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่จะมาแรงในปี 2009 นี้แน่!

ร้านสะดวกซื้อไร้สาย

ร้าน สะดวกซื้อกับระบบไร้สาย ฟังดูไม่นาจะเกี่ยวข้องกัน แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ร้านสะดวกซื้อที่หลายคนคุ้นชื่อกันดี ได้นำเอาระบบไร้สายเข้ามาช่วยในการบริหาร้าน ตั้งแต่จัดการเรื่องสต๊อกสินค้าไปจนถึงระบบความปลอดภัยภายในร้าน ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ระบบไร้สายที่นำมาใช้ในร้านสะดวกซื้อพวกนี้ค่อนข้างล้ำหน้าไปไกลแล้ว ภายในร้านมีแค่ผู้จัดการและพนักงานอีก 2-3 คน นอกนั้นใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อด้วยระบบไร้สายในการบริการร้านทั้ง หมด ถ้าคุณเคยเห็นแผ่นป้ายบาร์โค้ดที่ติดไว้ในชั้นขายสินค้าต่างๆ ที่นี่จะไม่มีครับ เพราะทุกอย่างเป็นระบบดิจิตอล ป้ายกระดาษบาร์โค้ดถูกแทนที่ด้วยหน้าจอ LCD ซึ่งแสดงราคาและชื่อสินค้า ภายในชั้นวางสินค้าจะมีเซนเซอร์ตรวจนับจำนวนของสินค้าที่ถูกซื้อไป เมื่อสินค้าใกล้จะหมด เครื่องก็จะส่งสัญญาณเตือนไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งพนักงานก็จะทราบทันที นอกจากนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า ก็ไม่ต้องเดินมาแปะบาร์โค้ดหรือป้ายราคาใหม่อีกด้วย เพราะสามารถสั่งการได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เคาเตอร์ไปยังป้ายแสดงราคา ดิจิตอลได้ทันที ผมว่าอีกไม่นานญี่ปุ่นคงสร้างหุ่นยนต์ลำเลียงสินค้าสำหรับร้านสะดวกซื้อด้วย แน่ๆ แบบนี้สงสัยคงมีคนตกงานกันอีกตรึม (*0*)!

wireless shop

โจรกรรมข้อมูลแบบไร้สาย

เมื่อ เข้าสู่ยุคไร้สายครองเมือง นอกจากเราจะได้เห็นความศิวิไลย์ของเทคโนโลยีต่างๆ กันแล้ว หากมองถึงภัยร้ายต่างๆ ที่มักมาพร้อมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีก็คงหนีไม่พ้นด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ การโจรกรรมข้อมูลแบบไร้สาย ถ้าเป็นเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เราคงนึกถึงการแฮกข้อมูลบนมือถือผ่านระบบบลูทูธกัน แต่ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ไม่ได้มีแค่บลูทูธเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึง Edge, GPRS, CDMA, Wi-Fi ไหนจะ WiMax ที่กำลังจะมาอีก การโจรกรรมข้อมูลในยุคไร้สายจะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณติดตามข่าวการเจาะฐานข้อมูลของโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในต่างประเทศ ซึ่งนำเอาระบบ RFID มาใช้ คงจะทราบดีว่าการเข้าถึงข้อมูลผ่านระบบไร้สายนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อข้อมูลดิจิตอลถูกส่งไปในอากาศก็เท่ากับว่าใครก็ตามที่มีอุปกรณ์ดักจับ สัญญาณและถอดรหัสก็สามารถได้ข้อมูลที่พวกเขาต้องการ หนำซ้ำยังอาจถูกย้อนรอยเจาะขึ้นไปถึงฐานข้อมูลหลักเลยทีเดียว สำหรับผู้ใช้ทั่วๆ ไปที่พกพาอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบไร้สายต่างๆ ได้นั่น อุปกรณ์ของคุณจะถูกสอดส่องและตกเป็นเป้ามากขึ้น เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักเชื่อใจเทคโนโลยีที่เพิ่งออกมาใหม่ จึงมักฝากข้อมูลต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลสำคัญเอาไว้ในอุปกรณ์พวกนี้ด้วย

เมื่อ เทคโนโลยีไร้สายช่วยให้อุปกรณ์ดิจิตอลเชื่อมต่อเข้าหากันได้จากทุกที่ และทำได้ง่ายขึ้นเท่าไร การแสวงหาประโยชน์จากข้อมูลที่ร่องลอยในอากาศก็ยิ่งมีมากขึ้น ต่อจากนี้ หากคุณเห็นใครถือเน็ตบุ๊กหรือโทรศัพท์มือถือเดินไปเดินมาตามที่สาธารณะต่างๆ อาจไม่ใช่แค่การใช้งานทั่วไป แต่อาจเป็นการสแกนหาสัญญาณไร้สายเพื่อโจรกรรมข้อมูลก็เป็นได้....





วันนี้เรียนวิชา Web programing ไม่รู้เรื่องอีกแล้วเพราะไม่ตั้งใจเรียนน อ่าาาา ก็มันตั้งใจแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนี!!!!!!!



ต่อไปนี้ ข้าพเจ้า(พูดชื่อในใจ) จะตั้งใจเรียนทุกวิชา(หรอ)55 เราต้องรักษาเลข 3 ไว้ให้คงอยู๋

เพื่อนๆก็ต้องสู้ๆนะ



วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

One: Little know me


Name:Suchada Limpisiri
Nickname: NAN or Nanzky
Study at SWU : COSCI Multimedia
My free time: Play Computer,Internet,Read(cartoon )Book,Eat etc.

I dream about in the future I'll be A CREATIVE

^^


MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com



นี้เป็นครั้งแรกของฉันที่ได้เขียนบล็อก บล็อกคืออะไร ตับ ไต ไส้ พุง? บางทีคิดว่าเป็นสิ่งไร้สาระ ในชีวิตเราวันๆนึงทำไรจะต้องบอกคนอื่นทำไม 55 คิดแค่นี้ แต่ฉันว่ามันคงมีประโยชน์มากกว่านั้นแน่ ไม่อย่างนั้นจะมีคนทำหรอ ใช่ไหมละ?