1.เจลหยุดกระสุน หมวกโล่ทหารอังกฤษกำลังจะได้รับ การอัพเกรดด้วยการใส่เจลสีส้มเข้าไป เพื่อป้องกันกระสุนและสะเก็ดระเบิดจากฝ่ายตรงข้ามเจาะเข้ามาที่กะโหลก ซึ่งเจลจะทำหน้าที่ดูดซับแรงขับเคลื่อนมหาศาลของกระสุนและสะเก็ดระเบิด จนไม่สามารถทำอันตรายให้กับทหารได้
เจลนี้มีชื่อว่า "D3O" พัฒนาโดยนายริชาร์ด พาล์มเมอร์ ใช้เทคโนโลยีนาโนในการผลิต หลักการทำงานคือ ในเจลประกอบด้วยโมเลกุลขนาดจิ๋ว เมื่อเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ โมเลกุลจะวิ่งสวนกันก่อให้เกิดพลังงานมากมาย จนโมเลกุลล็อกตัวและจับกันเป็นของแข็งที่สามารถดูดซับพลังงานจากอาวุธของ ฝ่ายศัตรูได้
นอกจาก "D3O" จะถูกนำไปใช้ในสงครามแล้ว ยังสามารถนำไปปรับใช้กับอุปกรณ์กีฬารวมทั้งชุดเล่นสกี ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้หัวเข่าและศีรษะกระแทกเวลาลื่นล้ม
2.ปืนล็อกลายนิ้วมือ ปืน ไฮเทค รุ่นอาร์เมทิกซ์ เป็นปืนรุ่นแรกที่มีระบบตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้ใช้ ถ้าลายนิ้วมือที่จับด้ามปืนไม่ตรงกับเจ้าของปืนที่ลงทะเบียนไว้ อย่าหวังว่า กระสุนจะพุ่งออกจากกระบอกปืนไปได้ ส่วนเจ้าของปืนต้องใส่สายข้อมือรักษาความปลอดภัยด้วย จึงจะปลดล็อกได้ ถ้าตัวสายข้อมือกับปืนอยู่ห่างกันเกิน 30 เซนติเมตร กลไกปืนละล็อกโดยอัตโนมัติ สินค้าตัวใหม่นี้อวดโฉมในงานแสดงปืนและอุปกรณ์กลางแจ้งนานาชาติ ที่เมืองเนิร์นแบร์ก เยอรมนี งานหมดวันที่ 16 มี.ค.นี้
3.หน้าอก สเต็มเซล โรง พยาบาลพรินเซสเกรซ ประเทศอังกฤษ จะเปิดให้บริการเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นและดูเป็นธรรมชาติแก่ผู้สนใจด้วยการ ใช้สเต็มเซลล์ ซึ่งเทคนิคนี้คิดค้นโดยแพทย์ชาวญี่ปุ่น
วิธีการ คือนำสเต็มเซลล์จากไขมันบริเวณพุงหรือต้นขา จากนั้นนำมาเลี้ยงในหน้าอกซึ่ง จะทำให้หน้าอกใหญ่เป็นธรรม ชาติไม่เหมือนกับการเสริมอกด้วยซิลิโคนที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน แต่ข้อจำกัดคือ การทำสเต็มเซลล์ครั้งหนึ่งสามารถทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นแค่ 1 คัพเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าเทคนิคก้าวหน้ามากกว่านี้ก็น่าจะทำให้หน้าอกขยายมากกว่านั้นได้
ศ. คีฟาห์ ม็อกเบล กล่าวว่า "เราใช้วิธีนี้ในการเสริมหน้าอกให้กับผู้ป่วยที่ต้องตัดหน้าอกออกเพราะโรค มะเร็ง ซึ่งมีชาวอังกฤษเข้ารับการผ่าตัดหน้าอกโดยใช้สเต็มเซลล์แล้วสิบกว่าคน แต่เรากำลังจะเริ่มทดลองใช้วิธีนี้ในคนปกติโดยได้อาสาสมัครแล้ว 30 คน และปลายปีนี้น่าจะเปิดให้บริการผ่าตัดให้กับผู้สนใจได้ คาดว่าค่าใช้จ่ายน่าจะอยู่ที่ 3.25 แสนบาท"
การเสริมหน้าอกด้วย สเต็มเซลล์นั้นดูเป็นธรรมชาติเนื่องจากเนื้อเยื่อมีความอ่อนนุ่มเช่นเดียว กับหน้าอกส่วนอื่น ขณะที่ซิลิโคนมีความแข็งและใช้ไปนานๆ ต้องเปลี่ยนทั้งยังมีโอกาสรั่วได้
4.หมวกดับเพลิงสุดเจ๋ง ต่อไปนี้นักดับเพลิงอังกฤษจะได้รับหมวกใหม่ที่ดูเผินๆ แล้วคล้ายหมวกในภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์
หมวก ดับเพลิงใหม่บุด้วยโฟม ทั้งโฟมแข็งและโฟมนุ่ม สามารถทนความร้อนได้ 1,000 องศาเซลเซียส แต่ไม่ทำให้ภายในหมวกมีความร้อนสูงกว่า 35 เซลเซียส ข้างหมวกยังติดไฟฉาย สปีกเกอร์ ไมโครโฟนและกล้อง เอาไว้ให้พนักงานดับเพลิงติดต่อกันตลอดเวลา
เอ็ม เอสเอ บริษัทออกแบบอุปกรณ์และเครื่องมือด้านความปลอดภัยของฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบหมวกดับเพลิงใบละ 6500 บาทนี้ ซึ่งเอ็มเอสเอออกแบบให้หมวกปกป้องศีรษะ ใบหน้าและลำคอของพนักงาน แว่นตายังออกแบบมาเป็นพิเศษให้ปกป้องจากความแรงที่วัสดุกระเด็นเข้ามา ความร้อน และภาพย้อนกลับคือแฟลชแบ๊กที่เกิดจากการระเบิด ปัจจุบันหมวกพนักงานดับเพลิงส่วนใหญ่ทำมาจากพลาสติกกันความร้อน แต่หมวกดับเพลิงรุ่นแรกๆ ที่ใช้เมื่อเกือบ 100 ปีก่อนทำมาจากเหล็ก ที่ต่อมาไม่นิยมใช้ เพราะถูกไฟดูดง่าย
5.สุนัขเรืองแสง ดร. เบียงชุนลี นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโซลเนชันแนล ประเทศเกาหลีใ ต้ ได้เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของลูกสุนัขพันธุ์บีเกิ้ลที เกิดจากการโคลนนิ่ง ให้เรืองแสงเป็นสีแดงเมื่ออยู่ภายใต้แสงอัลตรา ไวโอเลต ลูกสุนัขตัวนี้มีชื่อว่า "รัพพี" ย่อมาจาก "รูบี้ พัพพี" หรือ "ลูกหมาทับทิม"
6.แอร์แบ๊กป้องกันหิมะถล่ม แต่ ละปีมีข่าวหิมะถล่มทับนักเล่นสกีหลายครั้ง จึงมีผู้คิดค้นแอร์แบ๊ก "สโนว์ พัลส์ ไลฟ์ แบ๊ก" ติดตัวเมื่อหิมะถล่มแอร์แบ๊กจะพองตัวใน 3 วินาที ป้องกันการบาดเจ็บได้
บริษัท ไลฟ์แบ๊ก ซึ่งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกแบบให้แอร์แบ๊กป้องกันการบาดเจ็บจากหิมะถล่มให้มากที่สุด ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ใช้ง่าย และยังทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมองเห็นได้ง่ายด้วย
7.ลำโพงบางเท่ากระดาษ เทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้สิ่งของต่างๆ เปลี่ยนรูปแบบไป ลำโพงก็เช่นกันที่เทค โนโลยีเปลี่ยนรูปแบบไปให้ดูเหมือนกับแผ่นฟอยล์แผ่นหนึ่ง
ดร. ดันแคน บิลสัน และ ศ.เดวิด ฮัตชินส์ จากมหาวิทยาลัยวอร์วิก ประเทศอังกฤษ พัฒนาลำโพงที่มีน้ำหนักเบา โค้งงอได้ และหนาเพียง 0.25 ม.ม. ซึ่งอาจนำมาใช้กรุรถยนต์หรือผนังบ้าน และภายในปลายปีนี้บริษัทวอร์วิก ออดิโอ เทคโนโลยีส์ จะวางตลาดลำโพงฟอยล์ สำหรับหลักการทำงานของลำโพงฟอยล์คือ มันจะเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าซึ่งสร้างสนามแม่เหล็ก จากนั้นมันจะเปลี่ยนแรงสั่นสะเทือนให้เป็นเสียง ส่วนความชัดเจนของเสียงนั้นก็เหมือนกับลำโพงทั่วๆ ไป เนื่องจากคุณภาพเสียงไม่ได้ลดลงเลย
8.อียู ชมทีวีฉลาดของโซนี่ บริษัท โซนี่กำลังจะวางตลาด ทีวีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชื่อรุ่น "บราเวีย WE5" ที่ว่าดีต่อสิ่งแวดล้อมก็เพราะมันจะปิดตัวเองทันทีที่เราหลับหรือออกไปจาก ห้องเพื่อประหยัดพลังงาน
"บราเวีย WE5" มีเซ็นเซอร์ที่สามารถบอกได้ว่าไม่มีใครดูมันแล้ว ด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหวและความร้อนของผู้ดูที่อยู่ด้านหน้าในระยะที่ เซ็นเซอร์ไปถึง ถ้าเราหลับเซ็นเซอร์จะตรวจพบและมันจะไปปิดตัวเองที่ปุ่ม "ปิด" จากนั้นจอภาพจะดำแต่ยังคงมีเสียงอยู่ ช่วยลดการใช้พลังงานไปได้จาก 116 วัตต์ เหลือ 60 จากนั้นอีก 30 นาทีเมื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้ดูต่อไปอีกแล้ว มันจะปิดเสียงนับเป็นการปิดทีวีอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าเราตื่นขึ้นหรือมีใครเข้ามาในห้อง ทีวีจะเปิดภาพให้ดูทันที และเรายังสามารถเซ็ตเวลาเซ็นเซอร์ได้เอง
โซนี่อ้างว่า "บราเวีย WE5" ใช้พลังงานน้อยกว่าทีวีขนาดเดียวกันของบริษัทอื่นๆ ถึง 50% ส่วนเทคโนโลยีที่ใช้คือ แบ๊กไลต์ใหม่ที่เรียกว่า micro-tubular Hot Cathode Fluorescent Lamp (HCFL) ที่ช่วยทำให้ทีวีสว่างและชัดโดยใช้พลังงานน้อยกว่าทีวีแบบเดิมๆ
9.บ้านเคลื่อนที่ฉลาดหลบร้อน รอส รัสเซล นักธุรกิจชาวเมืองซัฟโฟล์ก ประเทศอังกฤษ ต้องการสร้างบ้านที่แปลกกว่าบ้านหลังอื่นๆ เพราะต้อง การให้บ้านหลังนี้เคลื่อนที่ได้ เมื่อมีไอเดียแปลกไม่เหมือนใคร เขาจึงติดต่ออเล็กซ์ เดอ ริจคี เพื่อนเก่า ซึ่งเป็นสถาปนิก อยู่ที่บริษัท
DRMM จนเป็นที่มาของบ้านแสนฉลาดหลังนี้
เพียงกดปุ่ม บ้านฉลาดก็จะเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง หกนาทีต่อมาตัวบ้านด้านนอกซึ่งทำด้วยไม้และเหล็กหนัก 20 ตัน ยาว 52 ฟุต กว้าง 20 ฟุต สูง 23 ฟุต ก็เคลื่อนที่เข้ามาติดส่วนที่เป็น กลาสเฮาส์จนหมด เพื่อป้องกันแดดร้อน หรือถ้าไม่ต้องการปิดให้หมดก็สามารถกดปุ่มให้หยุดได้ตามความต้องการ สำหรับมอเตอร์ที่ใช้ในการเคลื่อนบ้าน เป็นแบตเตอรี่ธรรมดาที่ใช้กับรถยนต์ทั่วไป รัสเซลกล่าวว่า "ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว เราจะเอาตัวบ้านด้านนอกเข้ามาปิดตัวบ้านทั้งหมด เพื่อสร้างความอบอุ่น แต่ถ้าเป็นฤดูร้อน เราจะเปิดให้เป็นกลาสเฮาส์ จะได้รับแสงแดดอุ่นๆ ได้"
กว่าจะได้บ้านหลังนี้มา ริจคี สถาปนิก ใช้เวลาออกแบบนาน 12 เดือน ทั้งยังตื่นเต้นที่ได้ออกแบบบ้านที่ไม่เหมือนใคร "บ้านเคลื่อนที่ทำให้มีลูกเล่นในการใช้พื้นที่ เพิ่มส่วนที่เป็นร่ม ส่วนที่รับแดด นับว่าเป็นบ้านที่เหมาะกับทุกฤดูกาลจริงๆ"
10.หนังสือพิมพ์แนวใหม่ เจ้าหน้าที่ในงานแสดง หนังสือไลป์ซิก ทางตะวันออกของเยอรมนี แสดงหนังสือพิมพ์แนวใหม่ที่ไม่ใช่กระดาษ แต่เป็นแผ่นติดตั้งหน้าจอที่ใช้อ่านหนังสือและหนังสือพิมพ์ได้ทั้งเล่ม งานดังกล่าวเป็นงานชุมนุมผู้ผลิตสิ่งพิมพ์และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ กว่า 2,100 บริษัท จาก 38 ประเทศ
11.มือถือกูเกิ้ล พนักงานประจำบูธบริษัทสื่อสาร โวดาโฟน สาธิตวิธีใช้งานโทรศัพท์มือถือของค่ายกูเกิ้ล ผู้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อการสืบค้นข้อมูลรายใหญ่ของโลก เปิดดูคลิปข่าวนายกฯ อังเกลา แมร์เคิล ในงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีซีบิต เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี เมื่อเร็วๆ นี้
++++++++ แ ถ ม ++++++++
ภัยน้ำยาบ้วนปาก แพทย์โรงพยาบาลราชวิถี เตือนคนไทยถึง "น้ำยาบ้วนปาก" หากใช้มากๆนานๆ ทำตุ่มรับรสเพี้ยน เกิดเชื้อราช่องปาก สีฟันเปลี่ยน หินปูนเกิดง่าย ส่วนยาสีฟันที่อ้างลดแบคทีเรียนั้น มีประสิทธิภาพเท่ากับแปรงฟันอย่างถูกวิธี ส่วนคนไทย 9 ล้านคนมีกลิ่นปาก และแนะวิธีเช็กกลิ่นปาก
ท.ญ.นพมณี วงษ์กิตติไกรวัล ทันตแพทย์กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากมีไว้เพื่อกำจัดกลิ่นปาก แต่ที่จริงแล้ว เป็นเพียงการกลบกลิ่นปากด้วยกลิ่นของน้ำยาใน ระยะสั้นเท่านั้น จากนั้นไม่นานก็กลับมามีกลิ่น ปากเช่นเดิม
การใช้น้ำยาบ้วนปากติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้ไปทำลาย เชื้อแบคทีเรียที่ดีที่อาศัยอยู่ในปากให้ตายไปด้วย อาจนำมาซึ่งเชื้อราในช่องปาก ทำให้ตุ่มรับรสของลิ้นเพี้ยนไป มีสีเคลือบผิวฟันที่เปลี่ยนแปลง หรือทำให้เกิดหินปูนได้ง่าย
คนนอนตื่นสายฉลาด คนนอนดึกตื่นสายฉลาดกว่าและรวยกว่าคนตื่นเช้า นี่คือผลการศึกษาของ ดร.ฟิลิปป์ พีนูซ์ จากมหาวิทยาลัยลีจ ประเทศเบลเยียม
ดร.พีนูซ์พบว่า คนนอนตื่นสายเหนื่อยช้ากว่าคนนอนตื่นเช้า หลังจากที่ทดลองกับอาสาสมัครเพื่อวัดปฏิกิริยาและความตั้งใจในการทำงาน ซึ่งระหว่างวันนั้นทั้งสองกลุ่มทำงานดีเท่าๆ กันหลังจากตื่นนอนเพียงไม่นาน แต่เมื่อทำงานไปได้ 10 ชั่วโมงผู้ที่นอนตื่นสายทำงานเร็วกว่าและตื่นตัวกว่าผู้นอนตื่นเช้า ผู้นอนตื่นเช้ายังรู้สึกง่วงนอนมากกว่า จากการสแกนสมองยืนยันว่าส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับความตั้งใจทำงานน้อยลง
การนอนตื่นสายนั้นอยู่ในดีเอ็นเอของมนุษย์ พันธุกรรมยังเป็นตัวบ่งชี้คนนอนตื่นเช้าหรือตื่นสาย คนนอนตื่นสายยังฉลาดกว่า ตัดสินใจรวดเร็วกว่า และมีความจำดีกว่า มีรายได้มากกว่าคนนอนตื่นเช้า ซึ่งคนนอนตื่นสายมีทั้งชาร์ลส์ ดาร์วิน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และวินสตัน เชอร์ชิล ที่มักเข้านอนตอนตี 4 และตื่นสาย